top of page

ตรวจวัดฮอร์โมนเพศและโรคติดต่อ

ตรวจเช็คโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ิblood test
ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศ (Hypogonadism)
คุณมีอาการเหล่านี้รึเปล่า !!   หงุดหงิดง่าย รู้สึกอ่อนเพลีย จู๋ไม่แข็ง
ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศ
(Hypogonadism)
คุณมีอาการเหล่านี้รึเปล่า !! 
หงุดหงิดง่าย รู้สึกอ่อนเพลีย จู๋ไม่แข็ง
ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศ
(Hypogonadism) คืออะไร

ภาวะที่ฮอร์โมนเพศชายต่ำลง จนมีผลให้ร่างกายเสื่อมถอยลง ส่งผลให้มีอาการคล้ายผู้หญิงวัยทอง อาการจะค่อยเป็นค่อยไป และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตามระยะเวลา โดยสามารถพบได้ตั้งแต่อายุ 40-45 ปีในท่านที่ขาดการพักผ่อนหรือไม่ได้รู้ดูแลตัวเอง

อาการของภาวะพร่องฮอร์โมนเพศ

อาการที่พบในภาวะนี้แบ่งได้ดังนี้

  • ด้านเพศ : อวัยวะเพศแข็งตัวลดลง, อารมณ์ทางเพศลงลง

  • ด้านร่างกาย : รู้สึกไม่ค่อยมีแรง ออกกำลังกายได้น้อยลง ประสิทธิภาพการทำงานลดลง รู้สึกง่วงนอนง่ายโดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร รู้สึกเตี้ลง

  • ด้านจิตใจ : มีความสุขในชีวิตลดลง ซึมเศร้า ไม่อยากอยู่คนเดียว

    หากพบว่ามีอาการด้านเพศเพียง 1 อาการ หรืออาการอื่นๆอย่างน้อย 3 อาการ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจโดยละเอียด

  • ฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเทอโรน (Testosterone ) สร้างที่อัณฑะ โดย จะถูกควบคุมการสร้างจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า  หากมความผิดปกติของบริเวณใดบริเวณหนึ่งจะทำให้เกิด ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศ (Hypogonadism)

  • สามารถตรวจหาได้อย่างละเอียดโดยการเจาะเลือดแล้ว เพื่อการรักษาที่ตรงจุด

หาสาเหตุที่ตรงจุดด้วยการตรวจเลือด
การรักษาภาวะพร่องฮอร์โมนเพศ
  • ในผู้ที่ตรวจพบว่ามีฮอร์โมนเพศชายต่ำ สามารถให้ฮอร์โมนเสริมได้แล้ว !!

  • รูปแบบของยามีทั้งชนิดเจลทา และยาฉีดทุก 1 เดือน และ 3 เดือน

สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อรับคำปรึกษาและเลือกตัวยาที่เหมาะสม
virus
confident
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
(Sexual transmitted disease : STDs)
ปัสสาวะแสบขัด มีหนอง ตกขาวหลังมีเพศสัมพันธ์รึเปล่า !!
ปัสสาวะแสบขัด มีหนอง
ตกขาวหลังมีเพศสัมพันธ์รึเปล่า !!
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs)
คืออะไร
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) คืออะไร
  • คือกลุ่มโรคติดต่อจากบุคคลหนึ่งสู่อีกบุคคล โดยส่วนใหญ่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์

  • ประกอบด้วยโรคติดต่อหลายชนิด เช่น โรคแผลริมอ่อน, ซิฟิลิส, หนองในแท้, หนองในเทียม, เริม, หูด, ไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น

โดยสามารถเป็นได้ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส พยาธิ และ เชื้อรา/โปรโตซัส

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย

หนองในแท้

หนองในเทียม

ซิฟิลิส

โรคแผลริมอ่อน

เริม

หูดหงอนไก่และเชื้อ HPV (มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งรูทวาร)

ไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี

การติดต่อและการรักษา
  • -การมีเพศสัมพันธ์ ทั้งจากการจูบ การสัมผัสอวัยวะเพศ การร่วมเพศโดยใช้ปาก/องคชาติ/ช่องคลอด/ทวารหนัก

    • ในช่วงแรกอาจไม่มีอาการได้

    • อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ปัสสาวะแสบขัด/มีหนอง, มีแผลบริเวณอวัยวะเพศหรือช่องปาก, ในผู้หญิงจะพบอาการตกขาวผิดปกติ หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์

    • การตรวจหาเชื้อในผู้ที่มีอาการสงสัย หรือมีความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันจะช่วยให้สามารถรักษาได้อย่างถูกต้อง

    • ตรวจได้จากการเพาะเชื้อจากบริเวณช่องคลอด ทวารหนัก หรือช่องปาก, ตรวจปัสสาวะ และตรวจเลือด

    • เมื่อทราบเชื้อที่แน่ชัด แพทย์จะทำการจ่ายยาที่เหมาะสมให้ บางโรคอาจไม่หายขาดแต่สามารถควบคุมเชื้อโรคและป้องกันอาการได้

    • หากไม่ได้รับการรักษา อาจะทำให้มีปัญหาสุขภาพระยะยาวได้ เช่น มียุตรยาก

แชทไม่ระบุตัวตน
bottom of page